วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เรื่องสั้น เยอรมัน ๒









ตอน...ใครเป็นคนตบ


In einem Eisenbahn-Abteil sitzen eine umwerfende Blondine, eine Nonne, ein Holländer und ein Deutscher. Der Zug fährt in einen Tunnel und man hört den Knall einer Ohrfeige. Mit roter Wange sieht man den Holländer als der Zug aus dem Tunnel fährt.

ในตู้โดยสารรถไฟขบวนหนึ่ง มีผู้โดยสาร สาวสวย ผมบลอนด์ นางหนึ่ง นางชี ชายชาวฮอลแลนด์ และ ชายชาวเยอรมัน
ขณะที่ รถไฟ กำลัง วิ่งเข้าอุโมงค์ และ ทันใดนั้น ทุกคน ก็ได้ยิน เสียง เหมือนคนถูกตบหน้า อย่างแรง
พอรถแล่น ออกจากอุโมงค์ ทุกคน ณ ที่นั้น ก็เห็น รอยแดงเพราะแรงตบ ที่แก้ม ของชายชาว ฮอลแลนด์


Denkt die Blondine: Tja, da wollte er wohl mich angrabschen, hat aber die Nonne erwischt und die hat ihm eine gelangt.

สาวสวยผมบลอนด์ คิดว่า ไอ้คนนี้ มันจะลวนลาม แต่ นางชีจับได้ซะ ก่อน นางชี เลยตบสั่งสอนไปหนึ่งที ( สาวผมบลอนด์คิดว่า นางชีเป็นคนตบ)

Denkt die Nonne: Da ist er wohl der Blondine an die Wäsche und die hat ihm eine gegeben.

ส่วนนางชี ก็คิดว่า " เพราะคนฮอลแลนด์ ลวนลาม สาวผมบลอนด์ เลยถูกสาวผมบลอนด์ตบ "


Denkt der Holländer: Wie gemein, der Deutsche grabscht die Blondine an und ich bekomm eine geklebt.

ส่วนคนฮอลแลนด์ ก็คิดว่า คนเยอรมัน เป็นคนลวนลามสาวผมบลอนด์ แต่คนซวย คือตัวเอง ช่างใจร้ายจริง



Der Deutsche lächelt und denkt, hoffentlich kommt bald wieder ein Tunnel, dann knall ich dem Holländer noch eine.

ชายชาวเยอรมัน ยิ้ม และ คิดในใจ หวังว่า คงจะมีอุโมงค์ให้ได้ลอดกันอีก กรูจะได้ตบ คนฮอลแลนด์ อีกซักฉาดดด

ตอนที่ 2







Figure 2

Ein Luxusdampfer verunglückt, doch die Rettungsboote reichen nicht. Jeder bekommt eine Schwimmweste und soll springen, aber keiner traut sich. Die Crew ist verzweifelt. Schließlich wird der Kapitän gerufen. Dieser geht zu der Gruppe, die ängstlich an der Reling steht und redet mit ihnen. Dabei springt einer nach dem anderen ins Wasser. Als alle Passagiere von Bord sind, fragt der 1. Offizier den Kapitän, wie er die Leute denn überreden konnte.
"Na ganz einfach" meint der. "Zu den Deutschen habe ich gesagt, es ist ein Befehl. Zu den Franzosen, es wäre patriotisch. Den Japanern habe ich versprochen, dass Springen gut für die Potenz wäre. Und den Italienern habe ich gesagt, springen sei verboten."

เรือสำราญ หรูลำหนึ่ง ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่เรือชูชีพ มีไม่พอ กับจำนวนผู้โดยสาร ทุกคนเลย ได้รับ เสื้อชูชีพไปคนละตัว และ จะต้องกระโดดจากเรือ แต่...ทุกคน ไม่กล้ากระโดด พวกลูกเรือ ไม่รู้จะทำยังไง ในที่สุด กัปตันเรือถูกเรียกไป
ให้ไปช่วยพูด กับ ทุกๆคน ซึ่งมีความหวาดกลัว ให้ไปรวมตัวกันที่ บริเวณ กราบเรือ กัปตันพูดเสร็จ ทุกคน ก็กระโดดลงน้ำ ไปตามๆ กัน พอทุกคนถึงฝั่ง ผู้ช่วยกัปตัน ได้ถามกัปตัน ขึ้นว่า ไปหว่านล้อมอย่างไร
ทุกคนถึง ได้กระโดดตามๆกันไปหมด

" กัปตันตอบว่า ง่ายมาก สำหรับคนเยอรมัน ได้บอกไปว่า นี่คือคำสั่ง ส่วนคนฝรั่งเศส มันคือการรักชาติ ส่วนคนญี่ปุ่น ฉันได้สัญญาและบอก ไปว่า การกระโดด จะเป็นการ เพิ่มสมรรถภาพและ พละกำลัง ส่วนชาวอิตาเลี่ยน ฉันได้บอกไปว่า
การกระโดด เป็น สิ่งต้องห้าม "

ตอนที่ 3
Ein Autofahrer steht in den USA im Stau. Plötzlich klopft ein Mann an sein Fenster.
"Präsident George Bush wurde entführt. Der Täter verlangt 10 Mio. Dollar Lösegeld oder er übergießt den Präsidenten mit Benzin und verbrennt ihn. Ich und meine Freunde gehen nun von Auto zu Auto und sammeln."
Autofahrer: "Und wieviel spenden die Leute im Durchschnitt?"
"Ca. 4-5 Liter ..."

ในขณะที่ คนขับรถยนต์ รายหนึ่ง ที่อเมริกา รถได้ติดการจราจร อยู่บนถนน ทันใดนั้น ก็มีชายคนหนึ่ง มาเคาะที่หน้าต่างรถ
ชายคนนั้นได้กล่าวว่า " ประธานาธิบดี จอร์จ บุช ได้ถูกลักพาตัวไป คนลักพาตัวไปได้เรียก ค่าไถ่เป็นจำนวนเงินถึง
10 ล้านดอลล่าร์ หรือไม่ก็ จะถูกราดน้ำมันเบนซิน เผาไปเลย ฉันและเพื่อนๆ ได้เดิน ไปที่รถแต่ละคนเพื่อรวบรวม
ชายที่นั่งในรถ ถามกลับไปว่า " เฉลี่ยแล้วคนได้ช่วยกันบริจาคเท่าไหร่ ? "
" ประมาณ 4 -5 ลิตร " ชายคนนั้นตอบ


ตอนที่ 4
Kommt ein Mann Samstag nachmittags in Hamburg am Hauptbahnhof an und will sich ein Taxi nehmen. Er geht zum Taxistand und fragt den Fahrer, wieviel eine Fahrt nach Wedel kostet. "50 Euro", sagt der Taxifahrer. Sagt der Mann, "ich hab aber nur 40 Euro, kannst du mich trotzdem nach Wedel fahren?" "Nee, sagt der Taxifahrer, die Fahrt nach Wedel kostet 50 Euro." "Na gut", sagt der Mann, "dann fahr mich eben so weit, wie die 40 Euro reichen".

Der Taxifahrer fährt los bis Rissen (für Ortsunkundige: kurz vor Wedel) und sagt, "Sorry, die 40 Euro sind jetzt alle, raus." Sagt der Mann, "Guck mal, es regnet und es sind doch nur noch ein paar Kilometer bis Wedel, kannst du nicht einfach ne Ausnahme machen?" - "Nee, raus!"

Eine Woche später, wieder Hamburger Hauptbahnhof. Wieder kommt der Mann an und braucht ein Taxi. Diesmal stehen acht Taxis am Taxistand und im letzten sitzt der Taxifahrer von letzter Woche. Der Mann geht zum 1. Taxi und fragt: "Was kostet die Fahrt nach Wedel?" "50 Euro." "Okay, hier hast du 100 Euro. 50 Euro, wenn du mich nach Wedel fährst und 50 Euro, wenn du mir einen bläst." Der Taxifahrer wird rot und brüllt "Mach bloß, dass du davon kommst, du Schwein." Der Mann geht zum zweiten Taxi, und fragt wieder das gleiche. "Was kostet die Fahrt nach Wedel?" "50 Euro." "Okay, hier hast du 100 Euro. 50 Euro, wenn du mich nach Wedel fährst und 50 Euro, wenn du mir einen bläst." Der Taxifahrer reagiert genau wie der erste.

So geht das die ganze Reihe durch, bis der Mann zum letzten Taxifahrer kommt (dem von letzter Woche). Wieder: "Was kostet die Fahrt nach Wedel?" "50 Euro, weißt du doch noch von letzter Woche." "Gut", sagt der Mann, "hier hast Du 100 Euro. 50 Euro, wenn du mich nach Wedel fährst, und 50 Euro, wenn du jetzt im Vorbeifahren allen Kollegen zuwinkst ..."



ชายคนหนึ่งได้เดินทางมาถึง สถานีรถไฟเมืองฮัมบวร์ก ในตอนบ่ายวันเสาร์ และต้องการจะเรียกแท็กซี่ เขาเดินไปยัง ที่รถแท็กซี่จอดรอผู้โดยสารอยู่ และ ถามคนขับแท็กซี่ว่า ค่าโดยสาร ไปยัง เวเดิล เท่าไหร่
" 50 ยูโร " คนขับแท็กซี่ตอบ ชายผู้นี้พูดว่า " แต่ฉันมีเงิน แค่ 40 ยูโร ช่วยไปส่งที่เวเดิลได้มั้ย? " ไม่ได้ ค่าโดยสารไปเวเดิล ต้อง 50 ยูโร "
" ชายคนนั้นกล่าวว่า งั้นก็ ไปส่งฉันเท่าที่ ราคา 40 ยูโร จะไปถึงได้ก็แล้วกัน "

แท็กซี่ไได้ไปส่ง ถึง ริซเซ็น ( อีกนิดเดียวก็จะถึง เวเดิล ) และพูดขึ้นว่า " เสียใจด้วย 40 ยูโรหมดแล้ว " ชายคนนั้นกล่าวว่า " ดูสิ ฝนกำลังตกอยู่ และอีก ไม่กี่กิโลเมตร ก็จะถึง เวเดิลแล้ว ช่วยยกเว้นสักครั้ง จะได้หรือเปล่า?"
" คนขับแท็กซี่ ตอบว่า " ไม่ได้ ลงไปจากรถซะ ! "

อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ที่สถานีรถไฟฮัมบวร์ก ชายผู้นี้ได้กลับมาอีกครั้ง และก็ต้องการจะเรียกแท็กซี่ อีก คราวนี้ มีแท็กซี่ จอดรอรับผู้โดยสาร ถึง 8 คัน คันสุดท้ายที่จอดอยู่ คือคนขับแท็กซี่ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ชายคนนี้ ไปที่แท็กซี่คันที่ 1 และถามว่า " ค่าโดยสารไปเวเดิล เท่าไหร่?"
คนขับแท็กซี่ตอบว่า " 50 ยูโร "
ชายคนเดิมกล่าวว่า " ฉันให้ 100 ยูโร , 50 ยูโร เป็นค่าโดยสารไปถึงเวเดิล อีก 50 ยูโร เป็นค่าอมนกเขา "
คนขับแท็กซี่ โกรธจนหน้าแดง และ ด่าตวาด ด้วยเสียงอันดังไปว่า " เอ็งไอ้หมูสกปรก "
ชายคนนี้ เดินไปถาม แท็กซี่คนที่สอง และก็ถามเช่นเดิมอีก " ค่าแท็กซี่ ไปเวเดิล เท่าไหร่? "
แท็กซี่คันที่สอง ตอบว่า " 50 ยูโร "
ชายคนนั้นตอบ " ตกลง นี่ 100 ยูโร 50 ยูโร เป็นค่าโดยสารไปเวเดิล อีก 50 เป็น ค่าอมนกเขา "
คนขับแท็กซี่ คนที่ 2 ได้มีปฏิกริยา แบบ คนขับแท็กซี่รายแรก

ชายคนนี้ ได้ถามแท็กซี่ ทุกคัน จนไปถึง รายสุดท้าย คือคนขับแท็กซี่คนเดียวกันกับ สัปดาห์ที่แล้ว ชายคนนี้ได้ถาม แบบเดิมว่า
" ค่าโดยสาร ไปเวเดิล เท่าไหร่ ? "
คนขับแท็กซี่ ตอบว่า " 50 ยูโร คงยังจำได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว "
ชายคนนั้น พูดว่า " เอาไป 100 ยูโร 50 ยูโร เป็นค่าโดยสาร ไปเวเดิล อีก 50 ยูโร ช่วยโบกมือ โชว์เพื่อนๆ แท็กซี่ ตอนขับผ่านด้วย "



ตอนที่ 5
"Mutti, ich habe gesehen, was Papa mit der Nachbarin gemacht hat. Zuerst hat er sie ausgezogen, dann hat sie seine Hose aufgemacht, dann hat er sie geküsst und dann ..."
"Ich hab jetzt keine Zeit", unterbricht sie ihn, "das kannst du nachher alles auf Papas Geburtstagsfeier erzählen."
Als die Gäste versammelt sind, legt Max los: "Papa war vorhin bei der Nachbarin. Zuerst hat er sie ausgezogen, dann hat sie seine Hose aufgemacht, dann hat er sie geküsst und dann ... äh, Mutti, wie heißt das Ding, das du immer in den Mund nimmst, wenn Onkel Erwin zu Besuch kommt?"
แม่ครับ ลูกไปเห็น ว่า พ่อ ได้ทำอะไร กับเพื่อนบ้านผู้หญิงมา อันดับแรกเลย พ่อถอดเสื้อผ้าให้ แล้วก็ผู้หญิงคนนั้นก็ถอดกางเกงของพ่อ
แล้วพ่อก็จูบผู้หญิงคนนั้น
" ตอนนี้แม่ ไม่มีเวลาฟัง " แม่ขัดจังหวะลูกชายขึ้น " ลูกเก็บไว้เล่า งานวันเกิดพ่อ ที่จะถึงนี้ดีกว่า "

ขณะที่แขกกำลังทะยอยมางานวันเกิดนั้น มักซ์ ก็เริ่มเล่าทันที " เมื่อเร็วๆนี้ พ่ออยู่กับเพื่อนบ้านผู้หญิง ก่อนอื่นพ่อได้ถอดเสื้อผ้า ผู้หญิงคนนั้นออก
แล้ว ผู้หญิงคนนั้น ก็ถอดกางเกงพ่อ ¨แล้วพ่อก็จูบผู้หญิงคนนั้น เอ.....แม่ครับ อันนั้นเรียกว่าอะไร ที่แม่เอาใส่ปากบ่อยๆ
ตอนที่ ลุงแอร์วิน มาเยี่ยม ? "



ตอนที่ 6
ขำขันแปลจากภาษาเยอรมัน ตอน แกว่งปากหาเสี้ยน ฮอลแลนด์ vs เยอรมัน ( อีกแล้ว)
Deutsche, Holländer, Kaugummer , Kondome คนเยอรมัน คนฮอลแลนด์ คนที่ชอบกินหมากฝรั่ง ถุงยางอนามัย
Ein deutscher isst ein Croissants, als ihn ein Kaugummi kauender Holländer anspricht: "Sag mal, esst ihr deutschen alles an einem Brot?" der deutsche erwidert verwundert: "Ja klar."
Der Holländer macht eine Riesenblase mit seinem Kaugummi und meint: "Wir nicht! In Holland essen wir nur das Innere. Die Brotrinden werden gesammelt, aufbereitet, zu Croissants geformt und nach Deutschland verkauft!"
ขณะที่ชายชาวยเยอรมัน กำลังกินครัวซองท์อยู่นั้น ชายชาวฮอลแลนด์ ซึ่งในปากกำลังเคี้ยวหมากฝรั่ง ได้ถามขึ้นว่า
" ช่วยบอกหน่อยพวกคนเยอรมัน กินขนมปังจนหมดเกลี้ยงเลยหรือ ? "
ชายชาวเยอรมันรู้สึกแปลกใจ ตอบกลับไปว่า " ใช่แล้ว "
ชายชาวฮอลแลนด์ เป่าหมากฝรั่ง ออกมาเป็นลูกโป่งขนาดใหญ่ และพูดขึ้นว่า
" พวกเราชาวฮอลแลนด์ กินแต่ขนมปังเฉพาะด้านในเท่านั้น ตรงขอบๆ ขนมปัง
เราจะรวบรวม เพื่อที่จะเอาไปทำครัวซองท์ใหม่ ส่งไปขาย ที่เยอรมัน ! "
ชายชาวเยอรมัน คิดและไตร่ตรอง แล้วถามกลับไปว่า
" พวกคนฮอลแลนด์ มีเซ็กส์ กันหรือเปล่า ? "
ชายชาวฮอลแลนด์ตอบกลับว่า " แน่นอน ! "
คนเยอรมัน ถามต่อไปว่า " แล้วพวกคนฮอลแลนด์ ทำยังไงกับ ถุงยางอนามัย ที่ใช้แล้ว ?"
" โยนทิ้ง ! " " คนฮอลแลนด์ตอบ "
คนเยอรมันตอบพร้อมกับหัวเราะ " ที่เยอรมัน เราไม่ทิ้ง ถุงยางอนามัย ที่ใช้แล้ว มันจะถูกรวบรวม
เอาไปทำใหม่ เป็นหมากฝรั่ง แล้วส่งไปขาย ที่ ฮอลแลนด์ ! "

ตอนที่ 7
นักบิน ไมเคิล จอร์แดน บิล เกตส์ ดาไล ลามะ
Eines Nachts fliegt ein kleines Passagierflugzeug irgendwo über Kalifornien. Fünf Personen sind an Bord: Der Pilot, Michael Jordan, Bill Gates, der Dalai Lama und ein Hippie.
Plötzlich gibt es eine große Explosion und die Kabine füllt sich langsam mit Rauch.
Die Tür zum Cockpit öffnet sich und der Pilot rennt durch die Kabine: "Meine Herren, ich habe eine gute und schlechte Nachricht. Die Schlechte ist, dass wir dabei sind, abzustürzen. Die Gute: An Bord sind vier Fallschirme und ich habe einen." Damit öffnet der Pilot die Kabinentür und springt hinaus. Sofort ist Michael Jordan auf den Beinen und sagt: "Meine Herren, ich bin der größte Athlet der Welt. Die Welt braucht große Athleten. Ich finde, der größte Athlet der Welt sollte einen Fallschirm haben." Mit diesen Worten schnappt er sich einen der übrigen Fallschirme und springt durch die Tür in die Nacht.
Bill Gates erhebt sich und sagt: "Meine Herren, ich bin der klügste Mann der Welt. Die Welt braucht kluge Männer. Ich bin der Meinung, dass der klügste Mann der Welt auch einen Fallschirm haben sollte." Er schnappt sich einen und springt auch hinaus.
Der Dalai Lama und der Hippie schauen sich an. Schließlich sagt der Dalai Lama: "Mein Sohn, ich habe ein zufriedenes Leben gelebt und ich habe die Seligkeit der wahren Erleuchtung erfahren. Du hast dein Leben noch vor dir, nimm den Fallschirm, ich werde mit dem Flugzeug abstürzen."
Der Hippie lächelt und sagt: "Hey, keine Sorge, Kumpel. Der klügste Mann der Welt ist gerade mit meinen Rucksack abgesprungen."



ค่ำคืนหนึ่ง เครื่องบินโดยสารขนาดเล็กลำหนึ่ง มุ่งหน้าไปที่ไหนซักแห่ง กำลังผ่านแคลิฟอร์เนีย บนเครื่องบินมีคนอยู่ทั้งหมด 5 คน นักบิน ไมเคิล จอร์แดน บิล เกตส์ ดาไล ลามะ และก็ ฮิปปี้ อีกหนึ่งคน
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงระเบิดขึ้น ห้องผู้โดยสารเริ่มมีควันอย่างช้าๆ นักบินได้วิ่งออกมาจากห้องที่ขับเครื่องบิน และพูดขึ้นว่า " ผมมีข่าวดี และ ข่าวร้าย จะแจ้งให้ทราบ ข่าวร้ายคือ เครื่องบินกำลังจะตก
ข่าวดีก็คือ เรามี ร่มชูชีพ แค่ 4 เท่านั้นเอง และ อันหนึ่งมันก็อยู่ที่ผม พูดแล้วนักบินก็เปิดประตูกระโดดออกจากเครื่องทันที ไมเคิล จอร์แดน ลุกขึ้นยืนทันที และพูดว่า
" ผมเป็นนักกรีฑา ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โลกต้องการนักกรีฑา ผู้ยิ่งใหญ่ ผมคิดว่าผมควรจะได้รับ ร่มชูชีพ " พูดจบก็ฉวยร่มชูชีพ แล้วก็กระโดดออกไป
บิล เกตส์ ลุกขึ้น และพูดว่า " ผมเป็นคนฉลาดที่สุดในโลก โลกต้องการคนฉลาด ผมเห็นว่า คนฉลาดที่สุด ควรจะได้รับร่มชูชีพ " พูดจบ ก็ฉวยร่มชูชีพ แล้วก็กระโดดออกไป
ดาไล ลามะ กับ ฮิปปิ้ นั่งมองซึ่งกันและกัน ในที่สุด ดาไล ลามะ ก็เอ่ยขึ้นว่า " เจ้าลูกชาย ผมได้ดำเนินชีวิตมาด้วยความเพียงพอ พึงพอใจ
มีความปิติสุขอย่างยิ่ง ในหนทาง แห่งการรู้แจ้งเห็นจริง ซึ่งได้ประสบมา ส่วนชีวิตลูก ยังต้องดำเนินต่อไป จงหยิบร่มชูชีพ ไปเถอะ ส่วนผมก็คง ตกลงไปพร้อมกับเครื่องบิน
ฮิปปี้หัวเราะ และพูดขึ้นว่า " ไม่ต้องเป็นห่วง เพื่อนยาก ไอ้คนที่ฉลาดที่สุด ของโลก กำลังกระโดด ไปพร้อมกับ เป้กระเป๋าหลังของผมอยู่ "

ตอนที่ 8

Figure 8


" Alle in unserer Familie machen momentan einen Kurs "
Meint der Malermeister. " Unser Sohn macht einen Tenniskurs,
die Tochter einen Tanzkurs, meine Frau einen Bastelkurs
und ich mache Konkurs ."


" ตอนนนี้ สมาชิก ในครอบครัวของเรา กำลังเข้าคอร์ส (เรียน)กันทุกคน "
ช่างทาสีกล่าว " ลูกชายกำลังเข้าคอร์สเทนนิส ลูกสาว
เข้าคอร์สเต้นรำ และเมียของฉัน เข้าคอร์สประดิษฐ็สิ่งต่างๆ
ส่วนตัว (กรู) เอง กำลังล้มละลาย

( m ) Konkurs แปลว่า ล้มละลาย
ไม่ต้องเข้าคอร์ส ก็ล้มละลายได้
ลองทำธุรกิจ ดูสิ อิอิ

Hans Gerber ,Bigenthal BE
*** Leserwitz = ขำขำจาก ผู้อ่าน นสพ ทางบ้าน ส่งมา






ตอนที่ 9
Figure 9

Finden zwei Polizisten vor der Uni eine Leiche fragt der eine: "Du wie schreibt man Universität?" erwidert der zweite "Schleppen wir ihn doch zur Post!"
ตำรวจสองนายได้พบศพ บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ตำรวจคนหนึ่ง ถามขึ้นว่า " มหาวิทยาลัย เขียนยังไง? "
เพื่อนตำรวจตอบกลับไปว่า " เราช่วยกันลากศพ ไปที่ บริเวณ
ไปรณีย์ กันเถอะ !!! "
(f) Universität = มหาวิทยาลัย
(f) Leiche = dead body = ศพ
(f) Post = ที่ทำการไปรษณีย
**** schreiben = เขียน
buchstabieren = สะกดคำ
๊Uni คือ คำเรียกสั้นๆ ของมหาวิทยาลัย คงคล้ายๆ
บ้านเรา บางที มหาลัย ได้ยินเป็น หมาลัย บ่อยๆ


ตอนที่ 10
Sagt ein deutscher Ingenieur zu seinem italienischen Kollegen:
"Gib mir Eisen und Stahl - und ich baue dir einen Flugzeugträger!"
Meint der Italiener: "Gib mir deine Schwester - und ich mache dir die Besatzung dazu!"
วิศวกรชาวเยอรมันได้พูดกับเพื่อนวิศวกรชาวอิตาเีลี่ยน ขึ้นว่า
" เอ็งเอาเหล็ก กับ เหล็กกล้า มาให้ข้า ข้าจะได้สร้าง เรือบรรทุกเครื่องบิน ให้เอ็งลำหนึ่ง !!!
วิศวกรชาวอิตาเลี่ยน พูดขึ้นว่า " เอ็งยกน้องสาว ให้ข้า แล้วข้าจะสร้างกำลังคน มาเสริมให้ !!!!

ตอนที่ 11
Themen: Geburt, Sorgerecht, Coca Cola, Gerichte

Sorgerechtsstreit vor Gericht. Die Frau schreit, springt auf und sagt: "Euer Ehren. Ich brachte das Kind zur Welt mit all den Schmerzen, als ich in den Wehen lag. Ich sollte das Sorgerecht für das Kind bekommen!"
( ที่ศาล : ซึ่งสามีภรรยา คู่หนึ่ง กำลังต่อสู้ แย่งชิง พื่อสิทธิในการดูแลลูก )
ต่อหน้าศาล ภรรยา ตะโกน และ ลุกขึ้นกล่าวแก่ศาลว่า " ข้าแต่ศาลที่เคารพ ฉันเป็นคนให้กำเนิดลูก ด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ขณะที่ฉันกำลังนอนเจ็บท้องคลอดนั้น ฉันก็ควรจะเป็นผู้ ที่มีสิทธิในตัวลูกแล้ว ! "
Der Richter dreht sich zum Mann und fragt: "Was haben Sie zu dazu zu sagen?"
ผู้พิพากษา หันไป ทางด้านสามี และถามขึ้นว่า " คุณมี อะไรจะพูดเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า ? "
Der Mann bleibt eine Weile nachdenklich sitzen ... dann erhebt er sich langsam. "Euer Ehren ... wenn ich eine Münze in einen Coke-Getränkeautomaten hineinwerfe und eine Coke kommt heraus ... wem gehört dann die Coke ... dem Getränkeautomaten oder mir?"

สามี นิ่งคิดและไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็กล่าวขึ้นอย่างช้าๆว่า " ข้าแต่ศาลที่เคารพ... เวลาที่ผม หยอดเหรียญ ตู้เครื่องดื่มโค้ก แบบอัตโนมัติ เข้าไป และก็มี โค๊ก ออกมากระป๋องหนึ่ง ..... ใครควรจะเป็นเจ้าของโค้กล่ะครับท่าน
ตู้เครื่องดื่ม อัตโนมัติ หรือว่า ผม ? "

ตอนที่ 12
Ein kleines Maedchen bei Protesten vor der britischen Botschaft in Bangkok.
Die Protestanten fordern die Auslieferung des abgesetzten thailaendischen Premiers
Thaksin Shinawatra, der zur Zeit als Fluechtling in London lebt.
ประท้วงรัฐบาลอังกฤษ
สาวน้อยผู้น่ารักคนนี้ ได้เข้าร่วมกับประชาชนผู้ประท้วงที่หน้าสถานฑูตอังกฤษ ที่กรุงเทพ.
ผู้ประท้วงได้เรียกร้อง การส่งตัวกลับมารับโทษของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร
ผู้ซึ่ง ปัจจุบัน ได้เป็นผู้ลี้ภัยอยู่ในลอนดอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น